4 มิถุนายน 2563 วันเฉลิม ถูก อุ้มหาย ที่กรุงพนมเปญ ของกัมพูชา ผ่านมา 1 ปี การหายตัวไปของนักกิจกรรมและนักเคลื่อนไหวทางสังคมชาวไทยมีความคืบหน้าไปแค่ไหน ขอพาทุกคนมาย้อนดูไทมล์และความคืบหน้าล่าสุดกันอีกครั้ง ภาพจากกล้องวงจรปิดและคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ เชื่อได้ว่า “ต้าร์” วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ถูกชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งลักพาตัวไปจากหน้าคอนโดฯ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2563 เวลาประมาณ 16.40 น.
โดยนักกิจกรรมและนักเคลื่อนไหวทางสังคมชาวไทย วัย 37 ปี ที่ลี้ภัยอยู่ในกัมพูชานาน 6 ปี
หลังการรัฐประหาร ปี 2557 ถูกชายฉกรรจ์พาตัวขึ้นรถยนต์สีดำ ระหว่างที่กำลังลงมาซื้อลูกชิ้นหน้าคอนโดมีเนียมที่พักอาศัยในกรุงพนมเปญ คำพูดสุดท้ายที่พี่สาวได้ยินจากน้องชายผ่านทางโทรศัพท์ คือ “โอ๊ย! หายใจไม่ออก” ก่อนที่โทรศัพท์จะถูกตัดสายไป
หลังเป็นข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่รู้จักวันเฉลิมทราบแต่เพียงว่าหนีไปอยู่ต่างประเทศ พร้อมระบุจะไม่ก้าวล่วงอำนาจของประเทศอื่น โดยนับตั้งแต่ยุคของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในปี 2557 วันเฉลิมนับเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองไทยรายที่ 7 ที่มีรายงานการหายตัว ขณะที่มีผู้ลี้ภัยอีก 2 รายที่พบเสียชีวิตแล้ว รวมถึงคนไทยอีกกว่า 100 คนที่ลี้ภัยไปยังต่างประเทศ
ฝั่งโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกัมพูชา ระบุในตอนนั้นว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็น “ข่าวปลอม” ตามด้วยข่าวที่ระบุในเวลาต่อมาว่า ไม่พบเบาะแส ด้านครอบครัวของวันเฉลิม เดินสายยื่นเอกสารให้กับหลายหน่วยงาน อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ และคณะกรรมการธิการการ (กมธ.) กฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน หลังการหายไป แฮชแท็ก #saveวันเฉลิม ขึ้นอันดับหนึ่งในทวิตเตอร์ทันที
นอกจากกระแสแฮชแท็กกลุ่มนักศึกษาและนักกิจกรรมได้จัดกิจกรรมเรียกร้องความยุติธรรมให้กับวันเฉลิมด้วยเช่นกัน รวมถึงกิจกรรมยื่นหนังสือหน้าสถานทูตกัมพูชา โดยการอุ้มหายนายวันเฉลิมเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ประชาชนจำนวนมากลุกฮือออกมาประท้วงรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศ
เช่นเดียวกับความเคลื่อนไหวสภายุโรปเรียกร้องทางการไทย กัมพูชา เร่งสอบสวน โดยเรื่องมาคืบหน้าอีกครั้งเมื่อเดือนธันวามคมที่ผ่านมา เมื่อศาลกัมพูชาได้นัดไต่สวนคดีนายวันเฉลิมเป็นครั้งแรกพร้อมกับให้พี่สาวสิตานันเข้าให้ปากคำที่กัมพูชา
นายธานี แสงรัตน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเน้นย้ำ รัฐบาลไทยได้ใช้ความพยายามเต็มที่ในการอำนวยความสะดวกผ่านหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องให้กระบวนการทางกฎหมายสามารถดำเนินไปได้ด้วยดีในการค้นหานายวันเฉลิม
ข่าวคราวการถูกอุ้มหายของวันเฉลิมกลับมาถูกพูดถึงอีกครั้งในโอกาสครบรอบ 1 ปี ที่หายตัวไป โดยเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ร่วมกับมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ จัดงานเสวนาออนไลน์ในหัวข้อ “ถอดบทเรียนสังคมไทย 1 ปีอุ้มหายวันเฉลิม” ในวาระครบรอบหนึ่งปี ที่วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมและนักเคลื่อนไหวชาวไทยถูกชายพร้อมอาวุธปืนลักพาตัวในวันที่ 4 มิถุนายน 2563 หลังลี้ภัยการเมืองอยู่ในพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยปัจจุบันคดีของวันเฉลิมยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
ไม่พลิกโผ! ที่ประชุมสภา รับมติ พ.ร.บ.งบประมาณ 65
ที่ประชุมสภาลงมติรับ พ.ร.บ.งบประมาณ 65 ด้วยคะแนนเสียง 269 เสียงต่อ 201 เสียง เตรียมตั้งคณะกรรมการวิสามัญ 72 คนต่อไป การลงมติร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 65 จากจำนวนผู้ลงมติ 471 เสียง พบว่าที่ประชุมมีมติรับหลักการในวาระหนึ่ง ด้วยคะแนน 269 ไม่รับหลักการ 201 งดออกเสียง 2
พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบปมาณ 2564 จำนวน 72 คน โดยแปรญัตติ 30 วัน และนัดประชุม กมธ.ครั้งแรก เพื่อเลือกประธานและตำแหน่งต่างๆ ในวันที่ 4 มิ.ย.เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมงบประมาณ ชั้น 4 อาคารส่วนกลาง จากนั้น นาย ชวน หลีกภัย ผู้ทำหน้าที่เป็นประธานสภาได้สั่งปิดการประชุม
ส่วนการบริการ หรือการขายในโลกอนาคต ต้องมีการปรับตัว และอบรมบุคลากรให้เข้าถึงเทคโนโลยี เพราะในอนาคตข้างหน้าอุปกรณ์ทุกอย่างจะเชื่อมต่อด้วยอินเตอร์เน็ต
ดังนั้นเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม ทุกภาคส่วนต้องปรับตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคธุรกิจที่ต้องสร้างความพร้อมให้กับบุคลากรของท่าน ให้เข้าใจ และนำเอาศักยภาพของเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาใช้ ควบคู่กับข้อมูลที่ต่อไปจะมีมาก ซับซ้อน และลึกซึ้งมากขึ้น และดิฉันหวังว่ารัฐบาลจะมีแผนงานการเตรียมความพร้อมเหล่านี้ให้กับประชาชน รวมถึงภาคธุรกิจด้วยนะคะ
อย่าให้โลกเปลี่ยนแปลงไปแล้ว เราต้องวิ่งตาม แต่เราต้องวิ่งไปพร้อม ๆ กับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปค่ะ เริ่มเตรียมตัวแต่เนิ่น ๆ นะคะ ถ้าใครสนใจ เอาไว้ถามพี่โทนี่ หรือขอให้พี่โทนี่เล่ารายละเอียดให้ฟังในคลับเฮ้าส์คราวหน้าก็ได้นะคะ”
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ระบุว่า ไม่ยกเลิกม.112 หนุนแก้บทลงโทษให้น้อยลง แนะ แยกดูหมิ่น-หมิ่นประมาท ออกจากอาฆาตมาดร้ายมาเป็น ม.112/1 ย้ำไม่ยอมหากมีใครมาดูหมิ่นสถาบัน แต่เชื่อว่าบทลงโทษรุนแรงไป
แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร